การเลี้ยงไก่ชน
ผู้เลี้ยงไก่ชน หรือผู้เริ่มเลี้ยงไก่ชนต้องศึกษาหาความรู้จากนักเลงไก่ชน จากผู้รู้ หรือมีประสบการณ์มาก่อน จะเป็นการดีสำหรับการเรียนรู้อย่างไรก็ตาม ให้ถือหลักที่ว่าให้พ่อพันธุ์ที่ถูกต้องตามลักษณะพันธุ์และลักษณะชั้นเชิง หรือลีลาการชนอย่างที่เราชอบ พ่อพันธุ์จะถ่ายทอดกรรมพันธุ์ทั้งสองนี้ คือ สีและชั้นเชิงการชน ส่วนแม่พันธ์ต้องหาให้เข้าตำราเช่นกัน คือ ไก่ดอก (ขนทั้งตัวดำปลายขนมีจุดขาว) หรือไก่กระ และต้องหาจากเหลาที่มีความน้ำอดน้ำทน กำลังใจดีสู้ไม่ถอย ซึ่งแม่พันธุ์จะถ่ายทอดพันธุกรรมในเรื่องนี้ในการเลือกหาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ให้ดูขนหูด้วยเพราะว่าสีขนหูจะบอกถึงสีทั้งตัวของไก่
อาหาร
สำหรับการเลี้ยงมี 2 ลักษณะ คือการเลี้ยงแบบขังไม่ค่อยปล่อยควรจะให้อาหารสำเร็จเสริมด้วย ผักผลไม้ต้องมีให้ไก่กิน การเลี้ยงแบบปล่อยเลี้ยงจะหากินเองได้ถ้าเลี้ยงขังต้องให้กินวิตามินรวม น้ำมันตับปลาด้วย
ไก่ต้องการอาหารเพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ใช้ชีวิตประจำวัน เช่น หายใจ เดิน วิ่ง และการกินอาหาร ใช้ในการสร้างกระดูก เนื้อ หนัง ขน เล็บ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ใช้ในการสร้างไข่ และผลิตลูกไก่ ดังนั้น การที่ไก่จะเจริญเติบโตดี มีความแข็งแรง และให้ไข่มาก ไก่ จะต้องได้กินอาหารเพียงพอ และได้กินอาหารดี โดยสม่ำเสมอทุกวัน ไก่ต้องการอาหารประเภทใดบ้าง ความต้องการอาหารของไก่คล้ายกับคนมาก ไก่ต้องการอาหารทั้งหมด 6 อย่าง คือ
อาหารประเภทแป้ง เพื่อนำไปสร้างกำลัง ใช้ในการเดิน การวิ่ง อาหารประเภทนี้ได้จากรำ ปลายข้าว ข้าวโพด ข้าวเปลือก กากมันสำปะหลัง
อาหารประเภทเนื้อ เพื่อนำไปสร้างขน เล็บ เลือด เนื้อหนัง อาหารประเภทนี้ได้จากแมลง ไส้เดือน ปลา ปลาป่น
อาหารประเภทไขมัน นำไปสร้างความร้อนให้ร่างกาย อบอุ่นได้จากกากถั่ว กากมะพร้าว ไขสัตว์ น้ำมันหมู กากงา
อาหารประเภทแร่ธาตุ ไก่ต้องการอาหารแร่ธาตุไปสร้างกระดูก เลือด และเปลือกไข่ แร่ธาตุต่าง ๆ ได้จากเปลือกหอยป่น กระดูกป่น
อาหารประเภทไวตามิน สร้างความแข็งแรง และกระปรี้กระเปร่าแก่ร่างกาย สร้างความต้านทานโรค และ บำรุงระบบประสาท มีในหญ้าสด ใบกระถิน ข้าวโพด รำข้าว ปลาป่น
น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดต่อร่างกาย ถ้าขาดน้ำไก่จะตายภายใน 24 ชั่วโมง ต้องมีน้ำให้ไก่ กินตลอดเวลา การปล่อยให้ไก่หาอาหารเองตามธรรมชาติจนเคยชิน ทำให้เกษตรกรเข้าใจว่าไก่กินรำและปลายข้าวและอาหารตามธรรมชาติก็ เป็นการเพียงพอแล้วแต่การที่จะเลี้ยงไก่ให้ได้ผลดีนั้นเกษตรกรจะต้องให้การเอาใจใส่เรื่องอาหารและน้ำให้มากขึ้นโดยวิธีการง่ายๆ ดังนี้
1. ให้น้ำสะอาดตั้งไว้ให้ไก่กินตลอดวัน และคอยเปลี่ยนน้ำทุกๆ วัน
2. ให้อาหารผสมทุกเช้าเย็นเพิ่มเติมจากอาหารที่ไก่หากินได้ตามปกติ
3. ให้อาหารไก่หลาย ๆ ชนิดผสมกัน เช่น ปลายข้าว รำข้าว ข้าวโพดป่น ปลาป่น ข้าวเปลือก กากถั่ว กากมะพร้าว หัวอาหารไก่สำเร็จรูปชนิดเม็ดหรือชนิดผง
4. มีเปลือกหอยป่นผสมเกลือป่นตั้งทิ้งไว้ให้ไก่กินตลอดเวลา
5. ให้หญ้าสด ใบกระถิน หรือผักสดให้ไก่กินทุกวัน
6. ในฤดูแล้ง ไก่มักจะขาดหญ้ากินเกษตรกรควรปลูกกระถินไว้บริเวณใกล้ๆ คอก วิธีปลูกนั้นให้นำเมล็ดกระถินมาลวกด้วยน้ำร้อนนาน 2 ถึง 3 นาที แล้วนำไปแช่น้ำเย็น เสร็จแล้วจึงนำไปเพาะในดินใส่ถุงพลาสติก จนกระทั่งต้นกระถินสูงประมาณ 1 เมตรจึงย้ายไปปลูกเป็นแถวหรือแนวรั้ว เมื่อต้นกระถินติดดีแล้ว ควรตัดให้ต้นต่ำ ๆ เพื่อไก่จะได้กินถึงหรือจะคอยตัดให้ไก่กินก็ได้ นอกจากนั้นเราอาจเพาะข้าวเปลือกหรือถั่วเขียวให้ไก่กินก็ได้ การเพาะถั่วเขียวให้เอาเมล็ดถั่วเขียวแช่เย็นไว้ 12 ชั่วโมง ล้างใส่ไหคว่ำไว้หมั่นรดน้ำทุก 2-3 ชั่วโมง พอครบ 3 วันก็เอาออกให้ไก่กินได้ ถั่วเขียว 4 กระป๋องนมให้แม่ไก่กินได้ประมาณ 100 ตัว
7. การใช้หัวอาหารไก่สำเร็จรูปผสมลงในรำข้าวหรือปลายข้าวเป็นวิธีการที่สะดวกที่สุด เนื่องจากเกษตรกรสามารถหาซื้อได้ง่ายและผสมได้สะดวกเป็นวิธีที่จะเสริมให้ไก่เจริญเติบโตรวดเร็วขึ้น
8. การสังเกตว่าไก่ได้อาหารเพียงพอหรือไม่ให้ดูว่าในระยะแรกที่ให้อาหารไก่จะรีบกินและมีการแย่งกัน ถ้าไก่กินอาหารไปเรื่อย ๆ และเลิกแย่งกันกินอาหารช้าลง มีการคุ้ยเขี่ย แสดงว่าไก่ได้กินอาหารเพียงพอแล้ว
9. อาหารไก่ชน โดยทั่วไปแล้วนิยมให้กินข้าวเปลือก ซึ่งต้องล้างน้ำให้สะอาดและต้องเป็นข้างเปลือกข้าวเจ้าด้วย บางรายต้องการให้ไก่มีกำลัง เอาข้าวเปลือกล้างน้ำตากให้แห้งคลุกด้วยไข่ไก่ ให้ไข่แดงไข่ขาวจับติดเม็ดข้าวเปลือกแล้วจึงตากให้ จึงนำมาให้ไก่กิน
วัคซีน
วัคซีนต้องทำตามกำหนด โรคนิวคาสเซิล ต้องหยอดจมูกแรกเกิด 1-3 วัน 1 ครั้ง ทำซ้ำเมื่ออายุ 1 เดือน และจากนี้ทำทุกๆ 3-4 เดือน โรคฝีดาษต้องปลูกฝีเมื่ออายุได้ 7 วัน ทำครั้งเดียวได้ตลอดชีวิต โรคอหิวาต์ มักทำให้ไก่ชนที่เหงาตาย หรือตกคอนตาย หรือมีอาการหน้าดำและขี้ขาวตาย ต้องป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเข้ากล้ามเนื้ออกป้องกันได้ 3-4 เดือน และแม่ไก่มักตายเมื่อเริ่มไข่ ควรฉีดวัคซีนป้องกันด้วย
การผสมพันธุ์
การเลี้ยงพ่อไก่และแม่ไก่ในระหว่างผสมพันธุ์ต้องให้อาหารอย่างสมบูรณ์ และควรเลี้ยงในคอกผสมพันธุ์ในสุ่มก็ได้ โดยให้ผสมพันธุ์พ่อไก่ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 2 ตัว ปกติให้ผสมพันธุ์ตัวต่อตัว เมื่อเห็นพ่อไก่ผสมพันธุ์แล้วควรแยกออกจากัน แล้วปล่อยพ่อไก่เข้าผสมอีกวันละ 3 เวลา หรือ 3 ครั้งก็พอ ทำเช่นนี้จนแม่ไก่ฟักไข่
การคัดเลือกพ่อพันธุ์
1. ต้องมีลักษณะเข้าตำราไก่ชนพระนเรศวรฯ
2. ต้องเป็นไก่ชนที่ไม่เคยแพ้มาก่อน
3. อายุพ่อไก่ต้องตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และอายุไม่เกิน 3 ปี
การคัดเลือกแม่พันธุ์
1. มีลักษณะเข้าตำราไก่ชนพระนเรศวรเช่นกัน
2. แม่พันธุ์ที่ดีควรให้ลูกมาแล้วสัก 2 คอก แต่อายุไม่แก่เกินไป
3. ควรใช้แม่พันธุ์ไม่เกิน 3 ตัว ต่อพ่อพันธุ์ 1 ตัว
รังฟักไข่
ผู้เลี้ยงควรจัดหาลัง กล่องหรือตะกร้า หรือใช้ไม้ไผ่ผสานเป็นรังไก่แล้วใช้ใบไม้หรือใบหญ้าแห้งไปพอประมาณ ปกตินิยมใช้ฟางแห้งใส่ไปในรังไก่ รังไก่นี้ควรเอาใบหญ้าหรือฝางเผาทิ้งทุกครั้ง เมื่อแม่ไก่ฟักไข่ออกมาแล้ว เพื่อป้องกันการเกิดไรไก่ หากพบไรไก่ในแม่ไก่ให้ใส่แป้งฝุ่นฆ่าเห็บเหาไร ซึ่งใช้กับสุนัขนำมาใช้ได้ หรือจะใช้ในตะไคร้แห้งรองพื้นรังไก่ ก็สามารถป้องกันไรไก่ได้ดีเช่นกัน
การคัดเลือกไข่ฟัก
ปกติไก่ชนจะให้ไขประมาณ 12-18 ฟอง แต่การฟักไข่นั้นต้องขึ้นอยู่กับขนาดแม่ไก่ หากแม่ไก่มีขนาดใหญ่ ขนปีหนา ก็จะฟักไข่ได้หลายฟองโดยทั่วไปแล้วจะให้แม่ไก่ฟักไข่ประมาณ 8-15 เท่านั้น ไข่ที่คัดฟักนั้นต้องสมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยว ผิวเปลือกเรียบ ตำราไก่ชนทุกฉบับกล่าวถึงการคัดเลือกไข่ตัวผู้ ตัวเมียไว้ดังนี้ ไข่ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าไข่ตัวเมียหรือมีน้ำหนักมากกว่า และพบว่าตรงกลางไข่กลมแล้วเรียวไปทั้ง 2 ข้าง ส่วนไข่ตัวเมียจะมีขนาดเล็ก และเบากว่าไข่ตัวผู้ ด้านหนึ่งจะเรียวอีกด้านจะป้าน ลูกไก่จะออกจากไข่เมื่อฟักได้ 21 วันแต่เมื่อแม่ไก่เริ่มฟักได้ 3 วัน ควรส่องไข่หาจุดเลือด หากไม่มีถือว่าไข่ใบนั้นไม่มีเชื้อให้นำไปรับประทานได้และตรวจส่องไข่ เมื่อไก่ฟักไข่ได้ 7 วัน จุดเลือดจะขยายใหญ่ขึ้น หากจุดเลือดไม่ขยายใหญ่ยังมีขนาดเท่าเดิม เหมือนเมื่อไก่ฟักได้ 3 วัน ถือว่าไข่ตายโคมให้คัดออกมาได้
การเลี้ยงลูกไก่
การเลี้ยงลูกไก่แบ่งได้ 3 ระยะ คือ
1. ระยะแรก ซึ่งเริ่มตั้งแต่ลูกไก่เกิดจนถึงอายุ 3 อาทิตย์ เป็นระยะที่ลูกไก่ต้องการความอบอุ่น ควรขังลูกไก่ให้อยู่กับแม่ในสุ่ม ให้น้ำสะอาดกินตลอดเวลา อาหารลูกไก่ ควรเป็นปลายข้าวหรือข้าวโพดป่นและเสริมด้วยทรายสะอาดให้กิน
2. ระยะ 3-8 อาทิตย์ ควรปล่อยให้แม่ไก่พาลูกออกมาหากินโดยอิสระตามลานบ้าน มีกองทรายและกองหญ้าหรือกองใบไม้ ให้แม่ไก่และลูกไก่คุ้ยเขี่ยหาตัวแมลงกินน้ำสะอาดต้องมีไว้ให้ลูกกิน และควรให้ลูกไก่ฝึกหัดกินข้าวเปลือก และมีผักสดให้ลูกไก่กิน หรือกินใบหญ้าก็ได้ ลูกไก่จะหาแมลงหรือไส้เดือนกิน และรู้จักกินผลไม้สุกด้วย เช่น มะละกอสุก ช่วงนี้ต้องทำคอนเตี้ยๆ ให้ลูกไก่ขึ้นเพื่อสร้างกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง
3. ระยะไก่กระทง อายุลูกไก่ 2-4 เดือน เป็นระยะที่ลูกไก่จะจากแม่เป็นอิสระลุกไก่จะเริ่มจิกตีกัน แต่อย่าปล่อยให้ลูกไก่ตีกัน ควรจะแยกกันมิฉะนั้น ลูกไก่จะมีตำหนิที่หน้าทำให้ขายไม่ได้ราคา เพราะบางตัวจะจิกตีกันจนหัวแตก ตาฉีก ในช่วงนี้เมื่ออาหารอย่างสมบูรณ์แล้วลูกไก่บางตัวยังผอมต้องถ่ายพยาธิ และในช่วงนี้จะคัดไก่ดูให้เข้าลักษณะตำราไก่ชนพระนเรศวร และตีเบอร์ทำประวัติไก่ไว้
การสร้างเล้าไก่
การสร้างคอกหรือเล้าเพาะพันธุ์ไก่ชน ขึ้นอยู่กับขนาดจำนวนไก่ต้องถือหลักว่าโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี พื้นต้องไม่ชื้น ต้องรองด้วยแกลบหรือขี้กบให้หนา เพื่อให้พื้นนุ่มหนา การสร้างเล้าไก่ควรสร้างให้มีลักษณะกันแดดกันฝนได้ ต้องกว้างพอประมาณและสูงขนาดเดินเข้าไปในเล้าได้ เล้าไก่ต้องห่างจากบ้านพอประมาณ และอยู่ในที่สูงเพื่อป้องกันการชื้นแฉะในหน้าฝน ไม่ควรสร้างใต้ต้นไม้เพราะไก่ชอบนอนที่สูงจะไม่เข้าเล้าแต่จะนอนบนต้นไม้แทนพื้นเล้าต้องปูด้วยแกลบ ขี้เลื่อย หรือทรายก็ได้ ต้องทำความสะอาดพื้นเล้าอยู่เสมอในเล้าควรมีขวดใส่น้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา ต้องทำคอนให้ไก่นอนและมีรังไก่ไว้ให้แม่ไก่ไข่ด้วย ในปัจจุบันควรทำมุ้งกันยุงด้วยหรือแมลงให้ไก่ก่อน หรือติดมุ่งรอบเล้าก็ได้ จะทำให้ไก่ถูกรบกวนโดยแมลง ไก่จะนอนหลับทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และป้องกันโรคฝีดาษได้ด้วย
ยาบำรุงไก่ชน
ตำรับที่ 1 ใช้บอระเพ็ดหั่นเป็นชิ้นบางๆ แช่น้ำผึ้งเดือนห้าให้กินทุกวัน
ตำรับที่ 2 หัวไพร่ เจตมูลเพลิง ผักคราดหัวแหวน ตำให้ละเอียดนำมาผสมน้ำผึ้งเดือนห้าปั้นเป็นลุกกลอนให้กิน
ตำรับที่ 3 ให้กินลูกเขียนขนาดโตพอประมาณหรือลูกหนูแดงๆ ไม่มีขน จิ้งจกหรือลูกปลาวันละตัว ทำให้มีกำลังวังชาแข็งแรง ถ้าหากหายากอาจให้เนื้อสดวันละชิ้นขนาดเท่านิ้วก้อยก็พอ
ตำรับที่ 4 ใช้ข้าเหนียวเผาจนดำตำพริกสุก หอยขมใส่ปลาป่นและน้ำอ้อย ปั้นเป็นลูกกลอนให้กิน
ตำหรับที่ 5 ใช้กระชาย พริกไทย ดีปรี และตระไคร้ ตำให้แหลกนำมายัดใส่ปากปลาช่อนตัวใหญ่ 1 ตัว ใส่ไปให้เต็มท้องแล้วแล้วนำปลาช่อนมาปิ้งให้สุกแล้วตำหรือโขลกทั้งตัวให้แหลก ผสมน้ำผึ้งเดือนห้า ปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กินตำหรับนี้นอกจากบำรุงกำลังแล้วยังทำให้ปีกไก่แข็งแรงและบินสูง
ตำหรับที่ 6 ใช้บอระเพ็ด กระชาย กระเทียม ปลาช่อน นกกระจอก ยาดำ หัวแห้วหมู พริกไทย (หน้าร้อนไม่ใช้) น้ำผึ้ง ใช้ตัวยาทุกอย่าง เท่า ๆ กัน บดละเอียด ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนให้กินก่อนนอนทุกวัน ทำให้ไก่แข็งแรง
ตำหรับที่ 7 เป็นยาบำรุงเสริม ใช้หญ้าแพรกบดให้ละเอียด ตากลมให้แห้งพอหมาดๆ แล้วผสมขมข้น ปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กินก่อนนอน ทำให้แข็งแรงและทำให้บินเก่ง